สุดล้ำ! นักวิทยาศาสตร์ประดิษฐ์คอนแท็คเลนส์ ที่สามารถซูมได้ เพียงกระพริบตา

สุดล้ำ! นักวิทยาศาสตร์ประดิษฐ์คอนแท็คเลนส์ ที่สามารถซูมได้ เพียงกระพริบตา

สายลับกับอุปกรณ์เทคโนโลยีสุดไฮเท็คขนาดจิ๋วที่เราอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อและเป็นไปได้ยาก แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว เราอาจจะได้เห็นเทคโนโลยีสุดเจ๋งขนาดจิ๋วแบบในหนังสายลับในเร็วๆนี้ก็ได้ยกตัวอย่างล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ในมหาิทยาลัยแคลิฟอเนีย ซานดิเอโก้ หรือ UCSD 

เพิ่งจะประสบผลสำเร็จในการคิดค้น คอนแท็คเวนส์ ที่สามารถเปลี่ยนจการะยะเลนส์ธรรมดาให้กลายเป็นเลนส์ซูมได้โดยการกระพริบตาเพียงสองครั้งเท่านั้น เทคโนโลยีนี้เป็นทำงานโดยการตรวจวัดค่าสัญญาณ Electrooculographic (EOG) ที่เกิดขึ้นเมื่อดวงตามีการขยับในรูปแบบเฉพาะ และสร้างเลนส์จำลองที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อแรงกระตุ้นของสัญญาณ EOG ดังกล่าว และเปลี่ยนระยะของเลนส์ตามตามกระแสสัญญาณที่ส่งออกมา

นอกจากนี้เลนส์ดังกล่าวยังสามารถทำงานได้ไม่ว่าคุณจะมองเห็นหรือไม่ เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สัญญาณไฟฟ้าที่กำเนิดจากการขยับของดวงตาในรูปแบบที่เฉพาะ ไม่ใช่การมองเห็น โดยสาเหตุที่นักวิจัยเริ่มคิดค้นเทคโนโลยีแบบนี้ก็เพราะว่า มันอาจพัฒนาไปสู่ระบบการจำลองการมองเห็นสำหรับคนตาบอด หรือสำหรับใช้ในหุ่นยนต์ปฏิบัติการระยะไกล หรือเปลี่ยนเป็นแว่นอัจฉริยะเหมือนโทนี่ สตร์ค ในอนาคตก็เป็นได้

เรื่องมนุษย์ต่างดาวยังคงเป็นสิ่งลี้ลับ ที่ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่สำหรับ ดาราหนุ่มรุ่นใหญ่อย่าง พีท ทองเจือ ซึ่งเคยออกมายอมรับว่าเชื่อในเรื่องมนุษย์ต่างดาว และได้ศึกษาอย่างจริงจัง งานนี้พอมีโอกาสเจอตัวก็เลยขอถามเรื่องราวดังกล่าว

พีทบอกว่า เรื่องมนุษย์ดาวคือเราชอบ สนใจและศึกษามานานก็เลยมีข้อมูลมากกว่าคนอื่นๆ เยอะ แค่นั้นเอง เพราะส่วนมากเราก็จะถ่ายรูปได้เยอะ ที่เมืองไทยนี่แหละ ถ่ายได้เยอะมาก และเก็บไว้ในบล็อกชื่อบล็อก 17 ในบล็อกจะเก็บรูปภาพที่ถ่ายเองไว้ได้ ซึ่งเป็นรูปที่ถ่ายเอง 100 เปอร์เซ็นต์ คือไม่รู้เก็บไว้ที่ไหน กลัวหาย ด้วยความชอบและศึกษาเยอะ เราก็จะเจอคลิป เราจะมีดีพอินเตอร์เน็ต คือการหาข้อมูลเข้าไปได้ลึกมากๆ

เข้าไปยังไง? คือคนที่ศึกษาเยอะจะมีคีย์เวิร์ดในการพิมพ์ ใครที่รู้เยอะ รู้ศัพท์เยอะ ก็จะหาข้อมูลได้ลึกกว่า อย่างบางคนพิมพ์มนุษย์ต่างดาว มันก็จะมีข้อมูลขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ถ้าพิมพ์ว่ามนุษย์ต่างดาวจากดาวโลกุมาลาเรกอง จากกาแล็กซี่ 17 มันก็จะเข้าไปลึกมาก คราวนี้ด้วยคีย์เวิร์ด บวกกับการศึกษาที่เราทำมานาน เราก็จะเจอ เช่น คลิปนาซ่าหลุดไปเจอติดยาน ผมก็จะไปดูดแล้วเอามาใส่ไว้ในบล็อกเยอะ อย่างตอนนี้เข้าไปดูในบล็อกคลิปต่างๆ ของเราที่เราให้ความสำคัญเก็บเอามาจากการที่เป็นคลิปหลุดต่างๆ ถูกโดนดูดกลับไปแล้วเขาก็ปิดแอทเคานท์ หมายความว่าคลิปที่เราเก็บเอาไว้เป็นคลิปที่น่าสนใจแล้วไม่อยากถูกเผยแพร่ ซึ่งเราก็ทิ้งไว้ให้เห็นเลย ก็มีข้อมูลที่เราศึกษาไว้เยอะมากๆ

หลายคนบอกว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวไม่มีจริง สำหรับพีทว่ายังไง? ผมเชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้อยู่ในโลกเรา มันมีแน่นอน แต่ตอนนี้พอใครพิสูจน์อะไรไม่ได้ คนไม่เชื่อก็จะบอกว่ามนุษย์คือโลกใบเดียวที่มีสิ่งมีชีวิต คราวนี้ถ้ามีนักวิทยาศาสตร์สรุปให้ได้ว่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกโลกจริงๆ แต่คำตอบนี้มันยังไม่มีใครให้คำตอบได้ สิ่งที่เราต้องทำคือต้องศึกษาไปเรื่อยๆ ในกลุ่มที่คุยกันก็มีการคุยในเรื่องของภัยพิบัติในอนาคตอย่างเดียว ก็คุยกันว่าถ้าเกิดภัยพิบัติข้างหน้าเราจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไร คนที่อยู่ในยุคนี้จะข้ามไปในยุคภัยพิบัติได้อย่างไร เราคุยกันในเรื่องนี้มากกว่า แต่เรื่องที่มนุษย์ต่างดาวจะพาคนบนโลกไปด้วยนั้น ถ้าจริงก็ดี แต่คงไม่หรอก ถ้าจะพาไปคงไปนานแล้ว

นักวิทยาศาสตร์อธิบาย การนอนใน “ห้องที่เย็น” ช่วยให้เราสุขภาพดีได้อย่างไร

วันที่ 20 มี.ค. สื่อต่างประเทศรายงาน Christopher Winter ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ที่ Charlottesville Neurology & Sleep Medicine เผยแพร่บทความใน HuffPost ระบุว่าอุณหภูมิห้องนอนส่งผลอย่างมากต่อการนอนหลับ (ฝันดี) ของเรา

เขาเสนอว่า อุณหภูมิห้องที่เหมาะสมแก่การนอนหลับที่สุดอยู่ระหว่าง 15-19 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิสูงกว่า 23 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่า 12 องศาเซลเซียส จะทำให้เรานอนหลับไม่สบาย พลิกตัวตลอดทั้งคืน ที่เป็นเช่นนี้เพราะ อุณหภูมิของร่างกายจะเพิ่มขึ้นและลดลงตามธรรมชาติในช่วง 24 ชั่วโมง โดยค่าสูงสุดเกิดขึ้นในช่วงบ่าย ช่วงเวลาต่ำสุดประมาณ ตี5 หรือเช้ามืด การนอนหลับมักเริ่มเมื่ออุณหภูมิร่างกายของเราลดลง ดังนั้นห้องที่เย็นกว่าสามารถกระตุ้นให้เราหลับเร็วขึ้น

นอกจากนี้การนอนหลับกับระดับอุณหภูมิห้องยังส่งผลต่อความอ่อนเยาว์อีกด้วย โดยการศึกษาพบว่า การนอนในห้องที่อุ่นกว่า 21 องศาเซลเซียส ร่างกายของคุณจะหยุดยั้งการปล่อยเมลาโทนินซึ่งเป็นหนึ่งในฮอร์โมนต่อต้านริ้วรอยที่ดีที่สุดของร่างกาย เมื่อเราหลับ อุณหภูมิร่างกายของเราลดลง ร่างกายของเราจะปล่อยเมลาโทนินซึ่งจะทำให้ร่างกายเย็นลงเล็กน้อย และเมื่ออุณหภูมิร่างกายเย็นลง การปล่อยฮอร์โมนเจริญเติบโตฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียด) ก็ลดลงเช่นกัน ถ้าเรานอนหลับไม่เพียงพอ เราจะตื่นขึ้นมาพร้อมคอร์ติซอลระดับสูง หมายความว่ามีโอกาสที่จะเกิดความเครียดหรือวิตกกังวลสูงตามไปด้วย

ผลการศึกษาหนึ่งพบว่าการนอนในห้องประมาณ 19 องศาเซลเซียส สามารถช่วยป้องกันโรคเมตาบอลิซึมบางอย่าง เช่นโรคเบาหวาน ผู้เข้าร่วมการศึกษาไม่เพียงเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้นเมื่อตื่นขึ้น แต่ยังเพิ่มปริมาณไขมันสีน้ำตาลหรือไขมันที่ดีเป็นสองเท่า ช่วยให้ร่างกายสามารถเก็บแคลอรี่ได้น้อยลง เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนี้สามารถลดความเสี่ยงของโรคได้

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป